วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

นิสสันเปิดตัว X-Trail Hybrid ชูความแรง เน้นความประหยัด และราคาเป็นมิตร..!!

       มาแบบสวนกระแสเหมือนกันสำหรับ Nissan X-Trail Hybrid เพราะตลาดรถไฮบริดในเมืองไทยตอนนี้มียอดจำหน่ายที่ไม่มากนัก จนค่ายรถญี่ปุ่นบางค่ายได้พับเสื่อรถไฮบริดที่ตอนแรกตั้งใจจะมาทำตลาดออกไปเสียแล้ว แต่ X-Trail Hybrid ยังเดินหน้าต่อด้วยสมรรถนะของรถและราคาที่ยั่วยวนใจ..!!


ภายนอกนั้นไม่ได้แตกต่างจากตัวปกติสักเท่าไหร่ โดยยังมีการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED (DRL) กระจังหน้าโครมเมียม ตัดกับสีฟ้าที่แสดงตัวตน Hybrid ที่บริเวณกันชนหน้า และฝาท้ายอีกด้วย ล้ออัลลอยขนาด17 นิ้ว พร้อมติดตั้งราวหลังคาเพื่อการบรรทุกสัมภาระในยามเดินทาง

ส่วนภายในห้องโดยสารยังหรูหราด้วยเบาะนั่งหนังแท้ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวา เบาะนั่งแถวที่ 2 พับได้แบนราบ (ไม่มีเบาะแถวสาม เพราะเป็นที่อยู่ของแบตเตอรี่) ฝาท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Auto Lift gate) พร้อมติดตั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง 




ขุมพลังจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร MR20DD 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Twin C-VCT ไดเร็คอินเจคชั่น ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่มีกำลังสูงสุด 41 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ผสานการทำงานทั้งสองเข้าด้วยกันก็จะได้กำลังสูงสุดรวมที่ 179 แรงม้า (เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร) ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบ XTRONIC CVT พร้อม Manual Mode 7 สปีด ช่วยให้ได้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงที่โดดเด่นที่สุด และประหยัดกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ถึง 25.6%



นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจริยะ (Intelligence Dual Clutch System) โดยจะทำงานดังนี้

- เมื่อรถยนต์ต้องการกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ เช่น ช่วงการเร่งแซง หรือ ทำความเร็ว คลัทช์ทั้ง 2 ตัวจะทำงานพร้อมกัน ทำให้เกียร์ CVT ได้รับกำลังจากทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า

- การขับขี่ในช่วงที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว จะมีการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่จากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 จะทำงาน เพื่อถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ส่งไปขับเคลื่อนเกียร์ ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้า จะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์เพื่อรีชาร์จประจุไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่

- เมื่อระบบไม่ต้องการกำลังจากเครื่องยนต์ คลัทช์ตัวที่ 1 ที่อยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ จะตัดการทำงานจากเครื่องยนต์ ผลที่ตามมาคือ เครื่องยนต์จะหยุดการทำงาน ทำให้ไม่มีแรงเสียดทานจากการหมุนของเครื่องยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง เหลือเพียงมอเตอร์ไฟฟ้ากับเกียร์เท่านั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว เครื่องยนต์จะทำงานเหมือนกับเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV)

- และอีกคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากระบบไฮบริดอื่นๆ คือ ระบบคลัทช์คู่อัจฉริยะ สามารถทำงานที่ความเร็วได้สูงสุดถึง 120 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงกว่าระบบไฮบริดทั่วไป อันจะนำมาซึ่งการประหยัดน้ำมันในย่านความเร็วสูงอีกด้วย


ระบบความปลอดภัยก็มีมาให้ครบ เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้าง (SRS) ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (ARC) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (ATC) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ


คะซุทากะ นัมบุ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "นิสสันยังคงมุ่งมั่นในการนำเสนอนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจ หรือ Innovation that Excites ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในทุกๆด้าน และเพื่อการบรรลุเป้าหมายเป้าหมายของความพยายามลดการปล่อย CO2 สู่ชั้นบรรยากาศ นอกเหนือจากการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าไร้มลพิษ ที่นิสสันมีความเป็นผู้นำในระดับโลกแล้วนั้น การสร้างสรรค์รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์พลังงานทางเลือก ถือเป็นอีกส่วนสำคัญในการบรรลุสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ เหตุนี้นิสสันจึงได้แนะนำรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์พลังงานทางเลือกอย่าง Nissan X-Trail Hybrid ใหม่ สู่ตลาดประเทศไทย"

"ซึ่งนิสสันมีความมั่นใจในสมรรถนะในทุกๆด้านของรถยนต์รุ่นนี้อย่างยิ่ง โดยเชื่อมั่นว่าจะทำให้ลูกค้าที่รอคอยเทคโนโลยีไฮบริดนี้ของนิสสัน มีประสบการณ์ที่ประทับใจและเชื่อมั่นกับความเหนือระดับอันแตกต่างที่นิสสันได้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้าในกลุ่มที่ชื่นชอบรถยนต์แบบ SUV และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีรวมถึงใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม”

โนบูซูเกะ โทคุระ หัวหน้าวิศวกรโครงการพัฒนารถยนต์รุ่น เอ็กซ์เทรล ไฮบริด (Chief Vehicle Engineering - CVE) บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า "ความโดดเด่นของระบบ นิสสัน เพียวไดรฟ์ ไฮบริด (Pure Drive Hybrid) คือการใช้เทคโนโลยีคลัทช์คู่อัจริยะ (Intelligence Dual Clutch System) เอกสิทธิ์ของนิสสันที่สามารถประยุกต์ใช้กับรถยนต์วางเครื่องยนต์ด้านหน้า ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อโดยไม่ต้องมีการดัดแปลงในส่วนอื่นๆ เพิ่มเติม จากเอ็กซ์-เทรลที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินมาสู่เครื่องยนต์แบบไฮบริด”


Nissan X-Trail Hybrid ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ 
- สีขาวสตอร์มไวท์ 
- สีเงินบริลเลี่ยนท์ซิลเวอร์ 
- สีเขียวมิดไนท์เจด 
- สีเทาดีพไอริสเกรย์ สี
- สีดำแบล็คสตาร์

ราคาจำหน่าย Nissan X-Trail Hybrid ใหม่ ดังนี้
รุ่น 2.0S 2WD ราคา 1,249,000 บาท
รุ่น 2.0E 2WD ราคา 1,324,000 บาท
รุ่น 2.0V 4WD ราคา 1,395,000 บาท

      นอกจากนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค นิสสัน รับประกันรถยนต์ 3 ปี หรือ 1 แสน กม.รับประกันระบบไฮบริด 3 ปี หรือ 1 แสน กม. และยังรับประกันแบตเตอรีถึง 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทางอีกด้วย นอกจากนี้นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไฮบริดยัง มาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษเพื่อการเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้นจากนิสสัน โดยแถมประกันภัยชั้น 1 (Nissan Premium Protection) 1 ปี พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษา 60,000 กม.หรือ 36 เดือน และอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.79%!!

ติดตามข่าวสารยานยนต์ได้บนแฟนเพจ MZ Crazy Cars คลิกที่นี่
************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น