สวัสดีครับพี่น้องชาว MZ Crazy Cars ที่กำลังอ่านทุกท่านะครับ วันนี้เราจะพาไปพบกับรถกระบะรุ่นใหม่ของทางนิสสันกัน นั่นคือ All-New Nissan NP300 Navara 2014 ที่จะพามาพินิจวิเคราะห์ หรือเรียกสั้นๆว่ารีวิวแบบเบื้องต้นกับเจ้าคันนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย!!
เชื่อว่าหลายท่านคงได้เห็นโฉมของ NP300 Navaraมาบ้างแล้ว ทั้งในเน็ต และสัมผัสตัวเป็นๆ และแน่นอนมันต้องมีคนชอบและไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อย้อนไปตอนที่นิสสันปล่อยภาพพร้อมกับคลิปวีดีโอทีเซอร์ออกมา ก็พอทำให้เดาทางได้บ้าง ต่อมาก่อนที่จะถึงวันเปิดตัว ก็มีภาพหลุดออกมาจากโรงงานและเป็นกระแสครึกโครมมากในช่วงนั้น ครั้งแรกเลยที่สายตาเพ่งเล็งไปยังภาพหลุดภาพนั้น รู้สึกผิดคาดพอควร คงเป็นเพราะผมหวังว่าน่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้ ที่จริงแล้วรถคันนี้เหมือนเอานาวาร่ารุ่นเดิมที่มีทรงบึกบึนอย่างกะนักเพาะกาย ไปปัดทรงผมใหม่ เฉือนหุ่นให้เป็นนายแบบมากขึ้น แต่โดยรวมก็ถือว่าทำได้โอเคครับ และเผยโฉมใหม่ในไทยเป็นที่แรกของโลกด้วย
วกกลับมาเข้าสู่เรื่องของเรา เมื่อวันที่ 18/07/57 ได้ไปเจอภาพเจ้านาวาร่าใหม่ในเฟสบุ้ค และใต้ภาพก็มีข้อความว่าลงศูนย์แล้ว เลยวางแผนว่าวันรุ่นขึ้นต้องไปชมแน่ๆ พอรุ่งเช้าเลยมาเช็คเฟสบุ้คอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ปรากฏว่าทางศูนย์ได้นำรถไปเปิดตัวที่หน้า Big C ซึ่งมันใกล้บ้านมากว่าที่ศูนย์อีก แบบนี้ก็เจ๋งเป้งเลยล่ะสิ!! ไม่รอช้า อาบน้ำแปรงฟัน แต่งตัว ทุกอย่างพร้อม เราจัดไป!!
เมื่อไปถึงขับรถผ่านหน้างาน ก็เห็นรถคันสีส้มๆ วับๆ แวมๆ ให้เห็น คนให้ความสนใจพอสมควร ผมไม่รอช้าหาที่จอดรถเสร็จ รีบเดินตรงเข้าไปหาน้องส้ม พร้อมกับกล้องในมือทันที!!
พอไปถึงก็เห็นน้องส้มจอดสนิทอยู่บนแท่นไม้เตี้ยๆ ที่แรกยังไม่รู้จะเริ่มยังไง แต่ด้วยความสงสัยเมื่อเทียบกับตัวก่อน เลยเอามือไปกดๆ ที่บานประตูดู รู้สึกว่าจะบุ๋มเข้าไปมากกว่าตัวก่อนอยู่นิดๆ และหลายคนยังกังขากับเรื่องความสูงอยู่เลยลองยืนเทียบซะหน่อย และมันก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ ก็แหงล่ะครับความสูงเจ้านี่ก็ตามภาพเลย
สิ่งแรกที่สะกดตามากที่สุดคือไฟหน้า มันดูมีมิติมาก ภายในโคมอัดไฟ Daytime Running Light ไว้ถึง 9 ดวงเรียงต่อกัน ถัดมาจะเป็นไฟเลี้ยวแบบหลอดธรรมดา และตามด้วยไฟส่องสว่างแบบ LED Projector กระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงคล้ายเดิม พร้อมแปะโลโก้นิสสันไว้ตรงกลาง ถัดลงมาด้านล่างจะเป็นช่องดักลมขนาดใหญ่ และติดไฟตัดหมอกไว้ด้านข้างทั้งสองซึ่งติดกรอบโครเมียมไว้ให้ด้วย หน้าตาโดยรวมถือว่าโอเคครับ ดูลงตัวดีถึงแม้จะยังไม่ทิ้งลุคเดิมเท่าไหร่
พอขยับมาดูด้านข้าง บานประตูทั้งหน้าหลังขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่จนเกินไป ด้านล่างจะยึดบันไดข้างดูเข้าสมัยดี โป่งล้อทั้งหน้าและหลังก็ยื่นออกมากำลังพอดี และดูสมส่วนดีครับ
มาดูส่วนของบั้นท้ายกันครับ ไฟท้ายใหญ่ดี แต่ก็เหมือนเอาของเดิมมายืดออกเท่านั้นเอง และจะสะดุดตากับพระเอกหน้าใหม่อย่างสปอยเลอร์หลังที่หนามาก วัสดุทำจากพลาสติกแข็ง สามารถเป็นที่วางอาหาร ขวดน้ำเวลาไปเที่ยวชมนกชมไม้ หรือจะนั่งบรรเลงกีต้าร์ใต้แสงจันทร์ ก็นั่งได้สบายเต็มก้นกว่าแบบเดิมๆแน่นอน ถัดลงมาตรงกลางจะเป็นที่เปิดฝากท้าย ซ้ายมือจะเป็นกล้องมองหลัง ฝั่งขวาจะเป็นที่เสียบกุญแจล็อคฝากท้าย ทั้งหมดอยู่ในกรอบพลาสติกสีดำด้านอันเดียวกัน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ฝาท้ายบานใหญ่มีการเฉือนเป็นรูปตัว V ตามสไตล์การออกแบบของรถยนต์นิสสัน พร้อมขนาบโลโก้ไว้ตามระเบียบ ก็ถือว่าเป็นการดีไซต์ที่ต่อยอดมาจากรุ่นเดิมได้ดี ทันสมัย และแฝงไปด้วยประโยชน์จากสปอยเลอร์หลัง นอกจากจะทำให้ช่วยในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์แล้ว ยังสามารถใช้สอยในรูปแบบอื่นได้อีกด้วย
มาถึงส่วนของภายในกันบ้าง เมื่อเปิดประตูบานหน้าออกมาก็จะพบกับกลิ่นอาย รังสี อิทธิพล รัศมีของความหรูหรากระแทกเข้ามาอย่างจัง!! มือขวาเอื้อมไปจับพวงมาลัยพร้อมกับกระดกร่างขึ้นนั่งบนเบาะหนังปรับไฟฟ้าอย่างนิ่มนวล แสดงอาการตะลึงพึงเพิดในความหรูระดับหนึ่ง เพราะเห็นภาพบ่อยแล้ว แต่สมมุติว่าพึ่งเคยเห็นจากตัวจริงเป็นครั้งแรก ผมคงจะช็อกคารถไปแล้วล่ะครับ (555+ เวอร์ไปละ) คือมันหรูสุดๆแล้วในบรรดารถกระบะอ่ะ
สัมผัสแรกที่ได้คงหนีความหรูหราไปไม่พ้น พวงมาลัยหุ้มหนังก็ยกมาจาก Teana นั่นแหละครับ มาตรวัดมีสองวง วงซ้ายเป็นมาตรวัดรอบการทำงานของเครื่องยนต์ และยังติ่งมาตรวัดอุณหภูมิไว้ด้านล่าง ส่วนวงขวาจะเป็นมาตรวัดความเร็วซึ่งบอกไว้สูงถึง 220 Km/H และห้อยมาตรวัดปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ด้านล่าง ส่วนกึ่งกลางจะเป็นจอแสดงผลแบบ 3 มิติ สามารถแสดงได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย แผงคอนโซลกลางออกแบบมาได้สวยมากครับ ส่วนบนสุดเลยจะเป็นแอ่งวางของพร้อมกับที่ชาร์ชไฟหนึ่งจุด ถัดลงมาจะเป็นช่องแอร์ซ้ายขวา และจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ตามด้วยปุ่มปรับอากาศและต่างๆอีกมากมาย การจัดวางทำได้ดี จับแตะได้ถนัดมือไม่ต้องเอื้อมไกลให้เมื่อย แผงประตูดีไซต์ได้ดี พร้อมกับบุวัสดุนุ่มๆไว้ที่วางแขน ด้านล่างจะมีที่วางขวดน้ำและอื่นๆอีกสบายๆ และยังมีไฟส่องพื้นให้อีกด้วย
บริเวณหัวคันเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จับได้ถนัดมือ การวางตำแหน่งเกียร์ยังเหมือนเดิม คือเกียร์ถอยหลังจะอยู่ทางขวาสุด ระยะการเปลี่ยนเกียร์กำลังพอดี รู้สึกว่ามันสั้นกว่า D-Max อยู่นิดหน่อย แต่ยังไม่สั้นถึงขนาด Ranger กับ BT-50 Pro นะครับ ยังห่างอีกเยอะ!! ภายในถือว่าทำได้ดีที่สุดอีกคันหนึ่ง และผมมองว่ามันหรูหรากว่ารถกระบะสไตล์เก๋งอย่าง BT-50 Pro เสียอีก!! อุปกรณ์ต่างๆ สามารถใช้งานได้สะดวกที่วางแก้ว และวางของมีมากพอสมควรไม่ต้องห่วงเลยครับ ที่หุ้มคันเกียร์ พวงมาลัย ที่วางแขนทุกด้าน หุ้มด้วยหนังและเดินตะเข็บจริงนะจ้ะ!!
ส่วนเบาะนั่งหลังจากจัดท่านั่งให้เข้ากับคนสูง 178 ซม.แล้ว จัดได้ว่านั่งสบายมากครับ นุ่มดี เบาะไม่ใหญ่เกินไป เล็กกว่าค่ายฝาแฝด แต่รู้สึกจะไม่ค่อยกระชับเท่าไหร่ ถ้าคนตัวหนาๆก็คงนั่งได้พอดี แต่ที่พิงศีรษะออกจะดันหัวไปสักหน่อยนะ
เอาล่ะ!! เรามาดูพื้นที่ภายในห้องโดยสารตอนหลังกันบ้าง เมื่อเปิดประตูบานหลังปุ้บ เปิดได้อย่างกว้างขวาง แต่ไม่ถึงกับ Ranger และ BT-50 Pro นั้น เปิดได้ชนิดที่เรียกว่าเกือบจะ 90 องศาเลยทีเดียว ใครที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานแบบพุงทะลัก ก็อาจจะเข้ายากออกยากสักหน่อย แต่สำหรับคนตัวปกติก็เข้าได้ไม่ยากครับ!!
จากนั้นก็ได้นำเรือนร่างเข้าไปสิงสถิตอยู่ที่เบาะแถวสอง สิ่งแรกที่เห็นคงจะเป็นอันไหนไปไม่ได้ นอกจากแอร์ตอนหลังครั้งแรกของรถกระบะขนาด 1 ตันในบ้านเรา ความรู้สึกที่ได้รับหลังจากจัดท่านั่งก้นชิด หลังพิงเต็มแผ่น คือ พื้นที่ Legroom มีเยอะ พื้นที่เหนือศีรษะเหลือประมาณเกือบๆกำมือหนึ่ง เบาะนุ่ม ความรู้สึกเมื่อเทียบกับตัวก่อนเหมือนจะดีกว่าแต่ไม่ได้มากแบบผิดหูผิดตา ตัวเบาะรองนั่งต่ำและสั้น ถ้ายาวกว่านี้จะดีมาก เมื่อนั่งไปสักพัก รู้สึกค่ายอื่นจะนั่งได้สบายกว่าระดับหนึ่ง นี่คือความรู้สึกหลักๆที่สัมผัสได้ครับ
อ้อ!! ที่จับยึดเพื่อโหนตัวเข้าไปนั่งในรถ ตรงฝั่งคนขับไม่มีนะครับ!
All-New Nissan NP300 Navara ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลความจุ 2.5 ลิตร DOHC แบบ 4 สูบแถวเรียง อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ โดยให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ส่วนรุ่นให้กำลังสูงสุด 163แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังมี 2 ตัวเลือก คือ อัตโนมัติ 7 จังหวะ และธรรมดา6 จังหวะ
และนี่ก็เป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้จาก All-New Nissan NP300 Navara โดยรวมเป็นรถกระบะรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีต่างๆ มายัดใส่เป็นครั้งแรกในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในไทย ภายในหรูหรา ภายนอกสวยลงตัวแม้จะไม่ทิ้งลุคเดิมเท่าไหร่ เป็นอีกคันหนึ่งที่ไม่มาสารถมองข้ามได้เลย และยิ่งเห็นอ็อฟชั่นแล้วเนี่ย บอกได้เลยว่าเสียตังค์ได้ไม่ยากเลยล่ะครับ...!!
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น King Cab
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC CALIBRE E 6MT 728,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC CALIBRE EL 6MT ราคา 743,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC CALIBRE V 7ATราคา 807,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC 4WD V 6MT ราคา 842,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC S 6MT ราคา 575,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC E 6MT ราคา 631,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC V 6MT ราคา 670,000 บาท
Nissan Navara 2014-2015 NP300 รุ่น KC CALIBRE S 6MT ราคา 681,000 บาท
Nissan Navara NP300 รุ่น Double Cab หรือ 4 ประตู
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC S 6MT ราคา 656,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC E ราคา 6MT 712,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE S 6MT ราคา 757,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE S 6MT757,000 ราคา 800,400 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE EL 6MT ราคา 819,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE EL 7AT ราคา 861,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE V 7 AT ราคา 892,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC CALIBRE VL 6MT ราคา 921,000 บาท*รุ่นที่ใช้ review*
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC 4WD S 6MT ราคา 832,000 บาท
NISSAN NP300 NAVARA รุ่น DC 4WD VL 7AT ราคา 996,000 บาท
สามารถติดตามข่าวสารยานยนต์ได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ https://www.facebook.com/pages/MZ-Crazy-Cars-Thailand/1410003339233043?ref_type=bookmark
***********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น